วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไวท์ช็อคโกแล็ตสตอร์วเบอรี่สเวร์ลชีสเค้ก(white chocolate strawberry swirl cheesecake)

ไวท์ช็อคโกแล็ตเชอร์รี่สเวร์ลชีสเค้ก


ไวท์ช็อคโกแล็ตสตอร์วเบอรรี่สเวร์ลชีสเค้ก


แม่ปูทำไวท์ช็อคโกแล็ตสตอร์วเบอรรี่สเวร์ลชีสเค้กไว้นานมากแล้ว
แต่ไม่ได้เอาสูตรเอารูปมาลงบล็อกทำเป็นขั้นเป็นตอนสักที
เพราะว่าไม่ค่อยชอบใจรูปถ่ายสำเร็จ มันแดงๆยังไงไม่รู้
ตัดแบ่งถ่ายอยู่หลายรอบก็ไม่ได้รูปที่ถูกใจสักที
วันนี้เลยลงมือทำใหม่ แต่วันนี้ไม่ได้ใช้สตอร์วเบอรี่
ใช้เชอร์รี่แช่แข็งแทน ไม่ได้เกี่ยวกับความอร่อยหรือไม่อร่อยแต่อย่างใด
จริงๆใช้สตอร์วเบอรี่หรือเชอร์รี่ หรือเบอร์รี่อื่นๆก็ได้ อร่อยทั้งนั้น
แต่พอดีแม่ปูมีเชอร์รี่แช่แข็งอยู่แล้วในตู้เย็นค่ะ ก็เลยได้ใช้ทำในวันนี้ค่ะ
อีกอย่างช่วงนี้ซุปเปอร์แถวบ้านลดราคาอาหารกระป๋องของแห้งเป็นว่าเล่น
ช็อคโกแล็ต น้ำตาล เนยนี่ลดกันเยอะมากๆ อดไม่ไหวต้องซื้อมาตุน
ซื้อมาทำ และก็แจกมั่งกินมั่ง คิดๆแล้วราคามันลด
เหลือเท่าๆกับราคาปรกติที่เคยซื้อเมื่อสองสามปีที่แล้วเลย
ตกลงไม่รู้ของถูกหรือของแพงเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็ถูกกว่าปรกติในรอบปี้นี้แหละนะ

ชีสเค้กนี้พี่เจนนี่ชอบมากๆ จะขอเบิ้ลสองชิ้นในวันเดียว
แม่ปูไม่ยอมให้เบิ้ล ฮ่ะ ๆ กลัวลูกอ้วน ตัดแบ่งไปให้ข้างบ้านด้วย
จะได้เผื่อแผ่กันอ้วน ราดซ้อสซะหน่อย จะได้ตัดเลี่ยนค่ะ
ลงมือทำเลยดีกว่าพยายามจะเขียนบล็อกนี้ให้เสร็จภายในเวลา๒ชม.ไม่รู้จะทันไหม 


ไวท์ช็อคโกแล็ตชีสเค้ก

ใช้สปริงฟอร์มขนาด ๘ นิ้ว หรือ ๙ นิ้วก็ได้ค่ะ
อบครัสท์ใช้อุณหภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
อบชีสเค้กใช้อุณหภูมิ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์

ส่วนครัสท์

คุ้กกี้โอริโอ้รสช็อคโกแล็ต ๑๒-๑๕ คู่ (เอาไส้ออกแล้ว)
((ปั่นแล้วให้ได้คุ้กกี้ป่นๆประมาณ ๑ ๑/๔ ถ้วย))
เนยละลาย ๓ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา


วิธีทำ

เอาคุ้กกี้ใส่ในเครื่องฟู้ดโปรเซสเซอร์ ปั่นให้ละเอียด
ใส่เนยละลายลงไปปั่นให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่ลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม
กดให้เรียบเสมอกันให้ขอบสูงขึ้นมาประมาณ ๑-๒ เซ็นติเมตร
เมื่อกดครัสท์ใส่พิมพ์เรียบร้อยแล้ว นำพิมพ์ไปใส่ในช่องฟรีซ
ระหว่างที่รอนี้ให้เปิดเตาอบอุณภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
พอเตาอบร้อนได้ที่ดีแล้ว ก็อบครัสท์ได้ อบนานประมาณ ๑๒ นาที
เมื่ออบครัสท์เสร็จแล้ว ให้นำออกมาวางบนตะแกรงพักไว้ให้ครัสท์เย็น
จากนั้นลดอุณหภูมิเตาอบลงเหลือ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์ ไปทำชีสเค้กกันต่อค่ะ


ชีสเค้ก

ครีมชีส ๓ ก้อน อุณหภูมิห้อง (ก้อนละ ๘ ออนซ์)
ช็อคโกแล็ตชิพขาว ๘ ออนซ์
น้ำตาลทรายขาว ๓/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
วานิลาแอ๊คแทรค ๑ ช้อนชา
น้ำเลมอนสด ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ

ถ่ายรูปกี่รอบๆก็ยังลืมหน้าลืมหลัง วันนี้ลืมเอาน้ำตาลเข้าฉาก
ลืมเลมอนด้วย แม่ปูเลยตัดแปะเอาค่ะ 


สตอร์วเบอรี่ซ้อส

สตอร์วเบอร์รี่สด ๑๒ ออนซ์ 
แป้งข้าวโพด ๑ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำส้มคั้น ๑/๔ ถ้วยตวง
แยมสตอร์วเบอรี่ ๑/๔ ถ้วยตวง


ถ้าใครจะใช้เชอร์รี่แช่แข็งก็ได้ค่ะ สูตรคล้ายๆข้างบน
แม่ปูปรับเปลี่ยนนิดหน่อย คือใส่น้ำเลมอน ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะแทนน้ำส้ม
นอกนั้นก็เหมือนกันค่ะ ใครชอบผลไม้ชนิดไหนก็เลือกเอาค่ะ
จริงๆแล้วก่อนจะลงมือทำครัสท์หรืออะไรทั้งหมดให้ทำซ้อสก่อนนะคะ

ผสมทุกอย่างลงในเครื่องปั่น ปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียดเลยค่ะ
ถ้าต้องการให้ซ้อสเนื้อเนียนๆไม่มีเมล็ดสตอร์วเบอรี่ก็กรองก่อนค่ะ
จากนั้นก็นำไปต้มจนเดือด ส่วนผสมจะข้นเล็กน้อย จะข้นมากยิ่งขึ้น
เมื่อส่วนผสมเย็นแล้วค่ะ 


เห็นฟองๆฟอดๆอย่างนี้ก็ช้อนออกบ้างก็ได้ค่ะ ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มซ้อสให้เดือด


เสร็จเรียบร้อยจะได้ซ้อสสีสวยใส อร่อยเข้มข้นถูกใจค่ะ


รูปนี้ซ้อสที่จัดเตรียมเสิร์ฟกับชีสเค้กค่ะ



ขั้นตอนต่อไปลงมือทำชีสเค้กกันค่ะ

๑.ละลายช็อคโกแล็ตเตรียมไว้ จะละลายในไมโครเวฟ
หรือละลายด้วยการตุ๋นก็ได้ค่ะ ต้มน้ำในหม้อให้ร้อน ไม่ต้องเดือด
เปิดไฟอ่อนๆ แล้ววางอ่างผสมที่ใส่ช็อคโกแล็ตซ้อนลงไป
คนให้ช็อคโกแล็ตละลาย พักไว้ก่อน


ช็อคโกแล็ตที่ละลายแล้ว


๒.ใส่ครีมชีสลงในโถตี ถ้าใครไม่มีสแตนด์มิกซ์เซอร์
ก็ใช้ตะกร้อไฟฟ้าได้ค่ะ ไม่มีปัญหา


๓.ตีครีมชีสกับน้ำตาลด้วยสปีดกลางจนส่วนผสมเนียนเข้าด้วยกัน


๔.ใส่ไข่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีด้วยสปีดต่ำพอให้ส่วนผสมเข้ากัน


๕.ใส่ช็อคโกแล็ตขาวที่ละลายไว้แล้วลงไป ตีด้วยสปีดต่ำต่อ
จนส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ใช้พายยางปาดขอบอ่างด้วยนะคะ
และก็ใช้พายยางปาดก้นอ่าง ดูส่วนผสมว่าเข้ากันดีหรือยัง


๖.จากนั้นจึงใส่น้ำเลมอน และวานิลาลงไปตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ แต่ละครั้งที่ใส่ส่วนผสมแต่ละอย่างลงไป
ตีแป๊บเดียวนะคะ แค่พอส่วนผสมเข้ากันเท่านั้นก็พอค่ะ


๗.เทส่วนผสมชีสเค้กลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม


จากนั้นก็ตักซอสค่อยๆหยอดลงไปบนส่วนผสมชีสเค้ก
และก็ใช้ไม้ปลายแหลมวนๆซอสให้สวยงามตามต้องการ


ออกมาดังนี้


ถาดนี้สีคล้ำหน่อยเป็นสีของซอสเชอรรี่ค่ะ


๘.นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์
อบนานประมาณ ๖๐ นาที ถ้าหน้าแห้งๆไม่เปียกก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ


สุกแล้วค่ะ หน้ายุบหน่อยนึงเพราะหนักซ้อสค่ะ
พอสุกแล้วอย่าเพิ่งเอาเค้กออกจากเตาอบทันทีนะคะ
ให้ปิดอุณหภูมิเตาอบ แล้วแง้มๆฝาเตาอบไว้
ให้เค้กคลายความร้อนอยู่ในเตาอบประมาณ ๑ ชั่วโมง
ก่อนนำออกจากเตาอบค่ะ พอเค้กเริ่มเย็นตัว
ก็คลุมพิมพ์เค้กด้วยคิทเช่นทาวกันน้ำหยดใส่เค้กค่ะ
แช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อยๆ ๔ ชั่วโมงก่อนตัดเสิร์ฟ


รูปนี้ชีสเค้กอยู่ตัวดีแล้ว เอาออกจากพิมพ์เตรียมตัดแบ่ง


สตอร์วเบอร์รี่ได้รูปที่ตัดแล้วสวยๆมารูปเดียวค่ะ


หน้าเชอร์รี่ ยังไงอย่าลืมซ้อสที่เหลืออีกนะคะ
ราดชุ่มๆ อร่อยที่ซู้ดดด


สุดท้ายของเมนูนี้ค่ะ







วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Chocolate-Dipped Strawberries


วันเสาร์นี้จะถึงวันแห่งความรักแล้ว
ใครมีแผนการจะเซอร์ไพร์สอะไรให้อะไรคนข้างกายไหมคะ
ของแม่ปูไม่มีอะไรค่ะเหมือนทุกปี พ่อบ้านก็ไม่ค่อยโรแมนติก
เคยทำซึ้งกินข้าวใต้แสงเทียน ทำกุ้งอบเนยอย่างดี
ดั๊นบอกเราว่ามองไม่เห็น ต้องเปิดไฟคุณชายจะได้แกะกุ้ง
ขนาดว่ากุ้งก็ผ่าเรียบร้อยแล้วนะ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ทำอะไรพิเศษอีก
ยิ่งมีลูกแล้วบ้านแม่ปูลูกมาก่อนสิ่งใดเป็นอันดับแรกเสมอ
ก็เลยไม่ค่อยได้ซึ้งๆหวานๆกันสองคนสักเท่าไหร่


ในวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก
หลายๆคนใช้ช็อคโกแล็ตเป็นสื่อของความรัก
มีช็อคโกแล็ตสาระพัดรูปแบบที่จะสื่อถึงความในใจ
วันนี้ลองช็อคโกแล็ตดิปสตอร์วเบอร์รี่กันนะคะ
ที่อเมริกาเป็นขนมวาเลนไทน์อย่างหนึ่งที่นิยมกันมาก
วันนี้แม่ปูใช้Bittersweet และ semi-sweet chocolateแบบแท่ง
ถ้าใครหาไม่ได้ก็ใช้ช็อคโกแล็ตชิพได้เช่นกันค่ะ
หรือใครชอบขมๆก็ใช้ดาร์คช็อคโกแล็ตได้ค่ะ

ถ้าใครจะตกแต่งด้วยช็อคโกแล็ตสีขาวก็ได้ค่ะ
วันนี้แม่ปูไม่มีช็อคโกแล็ตสีขาวก็เลยโรยด้วยถั่วพิตาชิโอค่ะ


ช็อคโกแล็ตดิปสตอร์วเบอร์รี่
สตอร์วเบอร์รี่สด ๕๐๐ กรัม
Bittersweet หรือsemi-sweet chocolate อย่างดี ๑๒ ออนซ์

สตอร์วเบอร์รี่เลือกซื้อลูกสวยๆใบที่ติดอยู่ยังสีเขียวสด
ล้างทำความสะอาด ใช้ผ้าซับน้ำออกให้แห้ง ทำด้วยความเบามือนะคะ
สตอร์วเบอร์รี่จะได้ไม่ช้ำ ถ้าน้ำยังติดอยู่เวลาดิปจะไม่ติดช็อคโกแล็ตค่ะ


ช็อคโกแล็ต ในรูปไม่พอค่ะ แม่ปูเติมไปอีกทีหลัง


ขั้นตอนการทำ

ตุ๋นช็อคโกแล็ตด้วยวิธีdouble boiler คือเอาน้ำใส่หม้อ
แล้วเอาอ่างวางซ้อนลงบนหม้อ โดยไม่ให้หม้อโดนน้ำ
และไม่ให้น้ำเดือดปุดๆ เดี๋ยวไอน้ำพุ่งขึ้นมาจะลวกมือเอา
เอาแค่พอให้น้ำร้อนก็พอค่ะ เอาช็อคโกแล็ตใส่ในอ่างที่วางซ้อนอยู่บนหม้อ
สักพักช็อคโกแล็ตก็จะเริ่มละลาย ใช้ไม้พายคนไปเรื่อยๆ
เมื่อช็อคโกแล็ตละลายดีแล้ว ก็ชุปผลไม้ที่ชอบได้เลยค่ะ
ไม่ต้องเอาอ่างออกจากหม้อนะคะ ช็อคโกแล็ตจะได้เหลวอยู่จะได้ดิปง่ายๆ


ยกใบสตอร์วเบอร์รี่ขึ้น ทำด้วยความเบามือนะคะ
จุ่มสตอร์วเบอร์รี่ลงในอ่างช็อคโกแล็ต
จะให้สวยงามเหลือส่วนสีแดงๆของสตอร์วเบอร์รี่ไว้ด้วยนะคะ
ถ้าใครจะโรยด้วยถั่วต่างๆก็โรยได้เลยค่ะ
แม่ปูโรยนิดเดียว เลยไม่มีรูปถั่วมาให้ชมด้วย


ยกขึ้นมาแล้ววางลงบนถาดที่ปูด้วยกระดาษไข


ทำไปจนหมด ทิ้งไว้ให้เย็นช็อคโกแล็ตจะแข็งตัว
หรือจะให้ช็อคโกแล็ตแข็งตัวเร็วขึ้น ใบสตอร์วเบอร์รี่เป็นสีเขียวสวย
ก็เอาแช่ตู้เย็นไว้เลยก็ได้ค่ะ แป๊บเดียวช็อคโกแล็ตก็แข็งตัว
จากนั้นถ้าจะนำไปมอบให้ใครก็จัดใส่กล่อง ผูกโบว์สวยๆ
มอบเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ได้เลยค่ะ


รูปนี้ยังไม่แข็งตัว


แม่ปูจับใส่ตู้เย็น แป๊บเดียวช็อคโกแล็ตก็แข็งตัวค่ะ
ค่อยๆแกะออกจากกระดาษไข รับประทานทันที
หรือนำไปเป็นของฝากได้ค่ะ


ขอเชิญอร่อยได้แล้วค่ะ


สุดท้าย




มาการอง (French Macaroons)


ในที่สุดก็ได้เวลามาอัพบล็อกสักที เพื่อนๆสบายดีกันทุกคนนะคะ
ช่วงนี้แม่ปูเริ่มลงมือทำสวนดอกไม้ พร้อมกับสวนครัวเล็กๆน้อยๆ
ปลูกโหระพา กระเพรา ตะไคร้ มะเขือเทศ ผักพื้นๆที่ใช้บ่อยๆ
ส่วนแปลงไม้ดอก ไม้ประดับทั้งหลายก็ปลูกเพิ่ม ปรับเปลี่ยนทุกปี
ทำมาหลายปีแล้ว ก็ยังไม่เป็นเป็นรูปเป็นร่างสวยๆเหมือนบ้านอื่น
ต้นไม้หลายๆต้นปลูกแล้วก็ตายไปไม่น้อย ที่ไม่ตายกว่าจะโตใช้เวลาหลายปี
ยังดีต้นไม้ที่ตายแล้ว ก็ไม่ตายทิ้งเฉยๆ ยังสามารถขุดขึ้นมา
แล้วเอาซากต้นไม้ที่เหลือนั้น ไปคืน เอาเงินกลับมาได้อีก ดีจริงๆ
มีประเทศไหนในโลกนี้ที่ทำได้อย่างอเมริกาอีกบ้างคะ(ภายใน๑ปีนะ)
แต่ยังไงก็ไม่อยากให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตายหรอกนะ เสียดายพลังงาน
อุตส่าห์หลังขดหลังแข็งขุดดิน เราก็อยากให้ต้นไม้โตสวยงาม
พอตายไปก็เริ่มลงแรงทำใหม่อีก เสียเวลารอให้ต้นไม้โตอีก
เดี๋ยวอัพบล็อกนี้เสร็จก็จะไปปรับปรุงซ่อมแซมแปลงไม้ประดับ
ทำไว้เมื่อซัมเมอร์ก่อน ตอนนี้เห็นแต่เศษดินไม่เป็นรูปเป็นร่าง
อยากมีมือขยันมาช่วยขุดดิน แม่ปูจะทำขนมให้กินเป็นการตอบแทน..


ระหว่างรอคนมาช่วยทำสวน มาหัดทำมาการองไปพลางๆก่อน
จริงๆแม่ปูเคยลงสูตรไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มาอีกทีคงไม่เป็นไร
จะได้ช่วยกระตุ้นต่อมความอยาก ให้ใครบางคนมาเริ่มลงมือทำสักที


มาการูนมีหลากหลายรสชาติสาระพัดไส้ แล้วแต่ใครจะคิดดัดแปลงอะไร
วันนี้แม่ปูทำพื้นๆง่ายๆ ไส้เลมอนเคิร์ด ชอบที่คุ้กกี้หวานๆตัดไส้เปรี้ยวๆลงตัวกันจริงๆ
ตัวมาการูนนั้น มีส่วนผสมแค่ไม่กี่อย่าง ขั้นตอนการทำก็นิดเดียว
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่าย ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว แต่ก็ไม่พ้นขีดความสามารถ 
ของคนอื่นแม่ปูไม่ทราบว่าจะมีวิธีการทำอย่างไรบ้างนะคะ
อาจจะมีวิธีทำแตกต่างกันไปแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน
ส่วนใครสนใจวิธีทำตามแบบแม่ปู ก็เดินเร่รุมล้อมโต๊ะเข้ามามุงดูกันได้เลยค่ะ



แนะนำอัลมอนด์ที่จะใช้ทำกันซะก่อน อัลมอนด์ที่แม่ปูซื้อมา
เป็นอัลมอนด์ดิบแบบที่มีเปลือกสีน้ำตาลบางๆยังติดแน่นอยู่
คลิกในบล็อกนี้ที่แม่ปูลอกเปลือกสีน้ำตาลออกเองด้วยวิธีง่ายๆ
ลอกเปลือกออกแล้ว อบให้แห้ง แล้วจึงปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด
จากนั้นแม่ปูก็เทใส่ถาดเกลี่ยให้เรียบเสมอกัน นำไปตากแดดให้แห้ง
อาจจะไม่แห้งสนิทมาก แต่ก็แห้งกว่าตอนที่ปั่นเสร็จใหม่ๆ
จากนั้นจึงนำไปชั่งตวงตามสูตร แล้วปั่นกับไอซิ่งอีกรอบ 
แล้วก็ร่อนผ่านตะแกรง อัลมอนด์จะได้ไม่จับกันเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย

ส่วนใครที่ซื้ออัลมอนด์แบบที่เลาะเปลือกจนขาวสวยมาแล้วก็ปั่นได้เลยค่ะ



อัลมอนด์สองรูปบนล่างข้อความนี้ แม่ปูปั่น แล้วนำไปตากแดดจัดๆครึ่งวัน


มาการอง(French Macaroons)

อัลมอนด์ปั่นละเอียด ๙๐ กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง ๑๑๐ กรัม
ไข่ขาว(จากไข่ขนาดใหญ่) ๒ ฟอง
น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหารตามชอบ ๓-๔ หยด
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)

แม่ปูทำทีไรแทบทุกครั้งจะถ่ายรูปไว้ แต่ก็ยังสามารถลืมนั่นลืมนี่ได้อีก
รูปข้างล่างนี้ลืมน้ำตาลที่จะตีกับไข่ขาว ๒ ช้อนโต๊ะ


ก่อนจะลงมือตีไข่ขาว ให้เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมด้วย
ไม้พายยาง ตะกร้อมือ เครื่องตีไฟฟ้า ถุงบีบ หัวบีบเบอร์ ๑๐ หรือ ๑๒
ถาดอบก็ให้ปูกระดาษพาร์ชเม้นท์ หรือแผ่นรองอบซิลแพทให้เรียบร้อย
ไม่แนะนำให้ใช้กระดาษไขรองอบนะคะ เพราะจะแซะออกยากมาก
ถ้าใช้แผ่นรองอบดีๆ พื้นคุ้กกี้ที่อบเสร็จจะเรียบสวยงาม แซะออกก็ง่าย
มาการูนสีส้มที่เห็น แม่ปูรองด้วยกระดาษไขค่ะ แม่ปูใช้ ที่ตัดเนย
ซึ่งเป็นแผ่นสแตนเลสแซะออก ก็พอใช้ได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ดีกว่า
เพราะบางคนมือใหม่มากๆ ทำไม่ดี คุ้กกี้ก็จะแตกได้ค่ะ


สำหรับไข่ขาวให้ใช้ไข่เก่า จะตีขึ้นฟูดีกว่าไข่ใหม่ๆ (เก่าประมาณ๕-๗วัน)
แล้วแยกไข่ขาว-ไข่แดงขณะที่ไข่ยังเย็นอยู่
จะแยกง่ายกว่าไข่ที่อยู่ในอุณหภูมิห้องแล้ว ทิ้งไว้ให้คลายความเย็นจึงตี

ไข่แดงที่เหลือ แม่ปูเก็บไว้ทำเลมอนด์เคิร์ด จะได้ใช้เป็นไส้

เลมอนด์เคิร์ด
ไข่แดงไข่ไก่ ๖ ฟอง
น้ำตาลทราย ๓/๔ ถ้วยตวง
น้ำเลมอนคั้นสด ๑/๒ ถ้วยตวง
เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา
แป้งข้าวโพด ๓ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมทุกอย่างรวมกันในหม้อสแตนเลส คนให้เข้ากัน
ยกขึ้นตั้งไฟ กวนด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน
จนส่วนผสมข้น พอสุกดีแล้วยกลงจากเตา พักให้เย็น
เมื่อเย็นเลมอนด์เคิร์ดจะข้นมากยิ่งขึ้น บีบเป็นไส้จะอยู่ตัวดี
สามารถทำไส้ไว้ล่วงหน้าได้ โดยเก็บใส่ตู้เย็นไว้




วิธีทำตัวมาการูน
๑.ปั่นอัลมอนด์ป่นกับน้ำตาลไอซิ่งรวมกัน จากนั้นร่อนแล้วพักไว้ก่อน


๒. ตีไข่ขาวกับเกลือให้ขึ้นฟู โดยเริ่มจากสปีดต่ำ ตีไปห้าวินาที แล้วจึงค่อยเร่งสปีดขึ้น 
จนเป็นสปีดกลาง ใครต้องการใส่สีอะไรก็ใส่ลงไปพร้อมกันได้เลย แม่ปูลืม


๓.พอตีไข่ขาวฟูเป็นฟองให้ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อย จนหมด
ขั้นตอนนี้ตั้งแต่เริ่มตีไข่ แม่ปูใช้เวลาตีนานประมาณ ๒.๓๐ นาที(สองนาทีครี่ง)


ตีไปจนไข่ขาวเริ่มแข็งตัว(คิดว่าใช้คำนี้นะ) ยกตะกร้อขึ้นไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
ไม่งอโง้งอ่อนตัวลงมา ขออภัยไม่มีภาพตรงนี้โชว์ หรือถ้าใครติดใจสงสัย
คลิกดูมาการูน บล็อกเก่าของแม่ปูได้ มีรูปภาพประกอบ


๔.ใส่อัลมอนด์ที่ร่อนรวมกับไอซิ่งแล้วลงไปครึ่งหนึ่งก่อน


ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากัน แม่ปูใช้คำว่า"คน"นะคะ 
งานนี้ไม่ได้ตะล่อมเบาๆ อย่างที่บอกไว้ว่า ทำตามวิธีมั่วของแม่ปูเอง
คนไปแป๊บนึงก็ใส่อัลมอนด์กับไอซิ่งที่เหลือลงไปจนหมด
ใช้เวลาไม่นานนะคะ ไม่เกิน ๑ นาที ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ใช้พายยาง
ปาดรอบๆอ่างให้เรียบร้อย ส่วนผสมที่ได้จะมีลักษณะดังนี้


๕.ตักใส่ถุงบีบที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว


พร้อมบีบใส่ถาดอบ


พอดีรูปสีส้มที่กำลังคนไข่ขาวกับอัลมอนด์แม่ปูไม่มี
เลยเอารูปสีเหลืองมาให้ดูแทนนะคะว่าหน้าตาตอนคนเป็นอย่างนี้
ส่วนผสมจะติดๆอยู่ข้างในตะกร้อด้วย ก็ใช้พายยางช่วยแซะออก
ใช้พายยางปาดส่วนผสมตรงก้นอ่างขึ้นมาด้วย ให้เห็นว่าส่วนผสมเข้ากันดีจริง


ส่วนผสมที่ได้ก็เหมือนกันๆค่ะ ข้นๆเหนียวๆหนืดๆ บีบใส่ถาดอบ
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่เกิน ๑ นิ้ว กะระยะห่างให้พอดี เดี๋ยวคุ้กกี้จะแผ่ออกอีกเล็กน้อย
จากนั้นพักส่วนผสมที่บีบใส่ถาดไว้ให้หน้าแห้ง ประมาณ ๓๐-๔๕ นาที
แม่ปูเปิดพัดลมเพดานช่วยค่ะ จะได้แห้งไวๆ พอส่วนผสมใกล้จะแห้ง
ก็ให้เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ ๓๒๕ องศาฟาเรนไฮน์
พอส่วนผสมหน้าแห้งดีแล้วก็นำเข้าเตาอบ แล้วให้ลดอุณหภูมิเตาอบลงทันที
เหลือ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮน์ อบนานประมาณ ๑๒-๑๕ นาทีแล้วแต่เตาอบแต่ละคน

พอถาดแรกอบสุกแล้ว ถ้ามีถาดที่สองจ่อรอคิวจะอบต่อ
ก็ให้เพิ่มอุณหภูมิเตาอบเป็น ๓๒๕ องศาฟาเรนไฮน์อีกครั้ง
เวลาเอาถาดอบถาดต่อไปเข้าเตาอบ ก็ให้ลดอุณหภูมิเหลือ ๓๐๐ องศาอีกครั้ง
แล้วก็อบต่อไปจนสุก ถ้าไม่มั่นใจเตาอบตัวเองว่าต้องอบนานขนาดไหน
ลองอบสักชิ้นสองชิ้นทดสอบดูก่อนก็ได้ ระวัง!!ถ้าอบนานเกินไปสีมาการูนจะไม่สวย


นำเข้าเตาอบแล้ว


เตานี้มั่งสีชมพูกับสีเขียว


รูปนี้ให้ดูที่ว่าหน้าส่วนผสมที่หยอดแห้งแล้วเป็นอย่างนี้
แห้งๆตึงๆ ใช้นิ้วแตะดูจะไม่มีเศษอะไรติดนิ้วขึ้นมา
เอาช็อคโกแล็ตวางทดสอบ ช็อคโกแล็ตก็ไม่จมลงไปใสส่วนผสม


เขียวใสสีโปรด


ถ้าอบบนกระดาษพาร์ชเม้นท์หรือแผ่นรองอบแบบนี้ ก้นจะเนียนสวย


อบออกมาแล้วพักให้คุ้กกี้เย็นตัวแล้วค่อยแซะออกจากถา


สีม่วงที่หยอดใส่ถาดอบ จะพักให้หน้าแห้งก่อนนำเข้าเตาอบ


อบแล้ว กระโปรงสั้นนิดนึง หน้าด่างไปหน่อยแต่ก็สวยพอตั


พาไปถ่ายแบบนอกสถานที่



ดูไกลๆก็สวย


มีแบบใส่โกโก้หลงมากับเค้าด้วย สูตรเอาไว้มาลงอีกทีก็แล้วกัน


วยพอจะมีใครนึกอยากลงมือทำบ้างไหมคะ


มาการองเป็นขนมที่มีรสหวานจัด ถ้าใครไม่ชอบหวานๆให้ผ่านไปได้ค่ะ
เพราะถ้าจะลดน้ำตาลลดความหวานลง มาการูนก็จะไม่ออกมาเป็นรูปร่างสวยงามได้
แต่เราสามารถตัดความหวาน โดยใส่ไส้เลมอนเคิร์ด หวานๆเปรี้ยวๆ อร่อยนัก
ยิ่งรับประทานกับกาแฟดำขมๆ หอมๆ แม่ปูการันตีความอร่อยค่ะ


มีคนถามหาขอดูเนื้อในของมาการูน ตอนที่มีอยู่เยอะๆ แม่ปูไม่ได้ถ่ายไว้เลย
แต่ยังดีมีเหลืออยู่ ๑ ชิ้น ก็เลยกัดให้ดูเนื้อนุ่มๆด้านในและความกรอบของผิวด้านนอก
รูปไม่ค่อยชัด แต่ก็พอเห็นร่องรอยความอร่อยได้นะคะ




ขอให้มีความสุขกับสูตรรักสูตรอร่อยจากแม่ปูนะคะ