ไวท์ช็อคโกแล็ตเชอร์รี่สเวร์ลชีสเค้ก

ไวท์ช็อคโกแล็ตสตอร์วเบอรรี่สเวร์ลชีสเค้ก

แม่ปูทำไวท์ช็อคโกแล็ตสตอร์วเบอรรี่สเวร์ลชีสเค้กไว้นานมากแล้ว
แต่ไม่ได้เอาสูตรเอารูปมาลงบล็อกทำเป็นขั้นเป็นตอนสักที
เพราะว่าไม่ค่อยชอบใจรูปถ่ายสำเร็จ มันแดงๆยังไงไม่รู้
ตัดแบ่งถ่ายอยู่หลายรอบก็ไม่ได้รูปที่ถูกใจสักที
วันนี้เลยลงมือทำใหม่ แต่วันนี้ไม่ได้ใช้สตอร์วเบอรี่
ใช้เชอร์รี่แช่แข็งแทน ไม่ได้เกี่ยวกับความอร่อยหรือไม่อร่อยแต่อย่างใด
จริงๆใช้สตอร์วเบอรี่หรือเชอร์รี่ หรือเบอร์รี่อื่นๆก็ได้ อร่อยทั้งนั้น
แต่พอดีแม่ปูมีเชอร์รี่แช่แข็งอยู่แล้วในตู้เย็นค่ะ ก็เลยได้ใช้ทำในวันนี้ค่ะ
อีกอย่างช่วงนี้ซุปเปอร์แถวบ้านลดราคาอาหารกระป๋องของแห้งเป็นว่าเล่น
ช็อคโกแล็ต น้ำตาล เนยนี่ลดกันเยอะมากๆ อดไม่ไหวต้องซื้อมาตุน
ซื้อมาทำ และก็แจกมั่งกินมั่ง คิดๆแล้วราคามันลด
เหลือเท่าๆกับราคาปรกติที่เคยซื้อเมื่อสองสามปีที่แล้วเลย
ตกลงไม่รู้ของถูกหรือของแพงเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็ถูกกว่าปรกติในรอบปี้นี้แหละนะ
ชีสเค้กนี้พี่เจนนี่ชอบมากๆ จะขอเบิ้ลสองชิ้นในวันเดียว
แม่ปูไม่ยอมให้เบิ้ล ฮ่ะ ๆ กลัวลูกอ้วน ตัดแบ่งไปให้ข้างบ้านด้วย
จะได้เผื่อแผ่กันอ้วน ราดซ้อสซะหน่อย จะได้ตัดเลี่ยนค่ะ
ลงมือทำเลยดีกว่าพยายามจะเขียนบล็อกนี้ให้เสร็จภายในเวลา๒ชม.ไม่รู้จะทันไหม
ไวท์ช็อคโกแล็ตชีสเค้ก
ใช้สปริงฟอร์มขนาด ๘ นิ้ว หรือ ๙ นิ้วก็ได้ค่ะ
อบครัสท์ใช้อุณหภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
อบชีสเค้กใช้อุณหภูมิ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์
ส่วนครัสท์
คุ้กกี้โอริโอ้รสช็อคโกแล็ต ๑๒-๑๕ คู่ (เอาไส้ออกแล้ว)
((ปั่นแล้วให้ได้คุ้กกี้ป่นๆประมาณ ๑ ๑/๔ ถ้วย))
เนยละลาย ๓ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา
แต่ไม่ได้เอาสูตรเอารูปมาลงบล็อกทำเป็นขั้นเป็นตอนสักที
เพราะว่าไม่ค่อยชอบใจรูปถ่ายสำเร็จ มันแดงๆยังไงไม่รู้
ตัดแบ่งถ่ายอยู่หลายรอบก็ไม่ได้รูปที่ถูกใจสักที
วันนี้เลยลงมือทำใหม่ แต่วันนี้ไม่ได้ใช้สตอร์วเบอรี่
ใช้เชอร์รี่แช่แข็งแทน ไม่ได้เกี่ยวกับความอร่อยหรือไม่อร่อยแต่อย่างใด
จริงๆใช้สตอร์วเบอรี่หรือเชอร์รี่ หรือเบอร์รี่อื่นๆก็ได้ อร่อยทั้งนั้น
แต่พอดีแม่ปูมีเชอร์รี่แช่แข็งอยู่แล้วในตู้เย็นค่ะ ก็เลยได้ใช้ทำในวันนี้ค่ะ
อีกอย่างช่วงนี้ซุปเปอร์แถวบ้านลดราคาอาหารกระป๋องของแห้งเป็นว่าเล่น
ช็อคโกแล็ต น้ำตาล เนยนี่ลดกันเยอะมากๆ อดไม่ไหวต้องซื้อมาตุน
ซื้อมาทำ และก็แจกมั่งกินมั่ง คิดๆแล้วราคามันลด
เหลือเท่าๆกับราคาปรกติที่เคยซื้อเมื่อสองสามปีที่แล้วเลย
ตกลงไม่รู้ของถูกหรือของแพงเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็ถูกกว่าปรกติในรอบปี้นี้แหละนะ
ชีสเค้กนี้พี่เจนนี่ชอบมากๆ จะขอเบิ้ลสองชิ้นในวันเดียว
แม่ปูไม่ยอมให้เบิ้ล ฮ่ะ ๆ กลัวลูกอ้วน ตัดแบ่งไปให้ข้างบ้านด้วย
จะได้เผื่อแผ่กันอ้วน ราดซ้อสซะหน่อย จะได้ตัดเลี่ยนค่ะ
ลงมือทำเลยดีกว่าพยายามจะเขียนบล็อกนี้ให้เสร็จภายในเวลา๒ชม.ไม่รู้จะทันไหม
ไวท์ช็อคโกแล็ตชีสเค้ก
ใช้สปริงฟอร์มขนาด ๘ นิ้ว หรือ ๙ นิ้วก็ได้ค่ะ
อบครัสท์ใช้อุณหภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
อบชีสเค้กใช้อุณหภูมิ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์
ส่วนครัสท์
คุ้กกี้โอริโอ้รสช็อคโกแล็ต ๑๒-๑๕ คู่ (เอาไส้ออกแล้ว)
((ปั่นแล้วให้ได้คุ้กกี้ป่นๆประมาณ ๑ ๑/๔ ถ้วย))
เนยละลาย ๓ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา

วิธีทำ
เอาคุ้กกี้ใส่ในเครื่องฟู้ดโปรเซสเซอร์ ปั่นให้ละเอียด
ใส่เนยละลายลงไปปั่นให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่ลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม
เอาคุ้กกี้ใส่ในเครื่องฟู้ดโปรเซสเซอร์ ปั่นให้ละเอียด
ใส่เนยละลายลงไปปั่นให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่ลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม
กดให้เรียบเสมอกันให้ขอบสูงขึ้นมาประมาณ ๑-๒ เซ็นติเมตร
เมื่อกดครัสท์ใส่พิมพ์เรียบร้อยแล้ว นำพิมพ์ไปใส่ในช่องฟรีซ
ระหว่างที่รอนี้ให้เปิดเตาอบอุณภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
พอเตาอบร้อนได้ที่ดีแล้ว ก็อบครัสท์ได้ อบนานประมาณ ๑๒ นาที
เมื่ออบครัสท์เสร็จแล้ว ให้นำออกมาวางบนตะแกรงพักไว้ให้ครัสท์เย็น
จากนั้นลดอุณหภูมิเตาอบลงเหลือ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์ ไปทำชีสเค้กกันต่อค่ะ
เมื่อกดครัสท์ใส่พิมพ์เรียบร้อยแล้ว นำพิมพ์ไปใส่ในช่องฟรีซ
ระหว่างที่รอนี้ให้เปิดเตาอบอุณภูมิ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์
พอเตาอบร้อนได้ที่ดีแล้ว ก็อบครัสท์ได้ อบนานประมาณ ๑๒ นาที
เมื่ออบครัสท์เสร็จแล้ว ให้นำออกมาวางบนตะแกรงพักไว้ให้ครัสท์เย็น
จากนั้นลดอุณหภูมิเตาอบลงเหลือ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์ ไปทำชีสเค้กกันต่อค่ะ

ชีสเค้ก
ครีมชีส ๓ ก้อน อุณหภูมิห้อง (ก้อนละ ๘ ออนซ์)
ช็อคโกแล็ตชิพขาว ๘ ออนซ์
น้ำตาลทรายขาว ๓/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
วานิลาแอ๊คแทรค ๑ ช้อนชา
น้ำเลมอนสด ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
ถ่ายรูปกี่รอบๆก็ยังลืมหน้าลืมหลัง วันนี้ลืมเอาน้ำตาลเข้าฉาก
ลืมเลมอนด้วย แม่ปูเลยตัดแปะเอาค่ะ
ครีมชีส ๓ ก้อน อุณหภูมิห้อง (ก้อนละ ๘ ออนซ์)
ช็อคโกแล็ตชิพขาว ๘ ออนซ์
น้ำตาลทรายขาว ๓/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ขนาดใหญ่ ๓ ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
วานิลาแอ๊คแทรค ๑ ช้อนชา
น้ำเลมอนสด ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
ถ่ายรูปกี่รอบๆก็ยังลืมหน้าลืมหลัง วันนี้ลืมเอาน้ำตาลเข้าฉาก
ลืมเลมอนด้วย แม่ปูเลยตัดแปะเอาค่ะ

สตอร์วเบอรี่ซ้อส
สตอร์วเบอร์รี่สด ๑๒ ออนซ์
แป้งข้าวโพด ๑ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำส้มคั้น ๑/๔ ถ้วยตวง
แยมสตอร์วเบอรี่ ๑/๔ ถ้วยตวง
สตอร์วเบอร์รี่สด ๑๒ ออนซ์
แป้งข้าวโพด ๑ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ๑/๔ ถ้วยตวง
น้ำส้มคั้น ๑/๔ ถ้วยตวง
แยมสตอร์วเบอรี่ ๑/๔ ถ้วยตวง

ถ้าใครจะใช้เชอร์รี่แช่แข็งก็ได้ค่ะ สูตรคล้ายๆข้างบน
แม่ปูปรับเปลี่ยนนิดหน่อย คือใส่น้ำเลมอน ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะแทนน้ำส้ม
นอกนั้นก็เหมือนกันค่ะ ใครชอบผลไม้ชนิดไหนก็เลือกเอาค่ะ
จริงๆแล้วก่อนจะลงมือทำครัสท์หรืออะไรทั้งหมดให้ทำซ้อสก่อนนะคะ
ผสมทุกอย่างลงในเครื่องปั่น ปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียดเลยค่ะ
ถ้าต้องการให้ซ้อสเนื้อเนียนๆไม่มีเมล็ดสตอร์วเบอรี่ก็กรองก่อนค่ะ
จากนั้นก็นำไปต้มจนเดือด ส่วนผสมจะข้นเล็กน้อย จะข้นมากยิ่งขึ้น
เมื่อส่วนผสมเย็นแล้วค่ะ
แม่ปูปรับเปลี่ยนนิดหน่อย คือใส่น้ำเลมอน ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะแทนน้ำส้ม
นอกนั้นก็เหมือนกันค่ะ ใครชอบผลไม้ชนิดไหนก็เลือกเอาค่ะ
จริงๆแล้วก่อนจะลงมือทำครัสท์หรืออะไรทั้งหมดให้ทำซ้อสก่อนนะคะ
ผสมทุกอย่างลงในเครื่องปั่น ปั่นทุกอย่างรวมกันให้ละเอียดเลยค่ะ
ถ้าต้องการให้ซ้อสเนื้อเนียนๆไม่มีเมล็ดสตอร์วเบอรี่ก็กรองก่อนค่ะ
จากนั้นก็นำไปต้มจนเดือด ส่วนผสมจะข้นเล็กน้อย จะข้นมากยิ่งขึ้น
เมื่อส่วนผสมเย็นแล้วค่ะ

เห็นฟองๆฟอดๆอย่างนี้ก็ช้อนออกบ้างก็ได้ค่ะ ยกขึ้นตั้งบนเตาต้มซ้อสให้เดือด

เสร็จเรียบร้อยจะได้ซ้อสสีสวยใส อร่อยเข้มข้นถูกใจค่ะ

รูปนี้ซ้อสที่จัดเตรียมเสิร์ฟกับชีสเค้กค่ะ

ขั้นตอนต่อไปลงมือทำชีสเค้กกันค่ะ
๑.ละลายช็อคโกแล็ตเตรียมไว้ จะละลายในไมโครเวฟ
หรือละลายด้วยการตุ๋นก็ได้ค่ะ ต้มน้ำในหม้อให้ร้อน ไม่ต้องเดือด
เปิดไฟอ่อนๆ แล้ววางอ่างผสมที่ใส่ช็อคโกแล็ตซ้อนลงไป
คนให้ช็อคโกแล็ตละลาย พักไว้ก่อน
๑.ละลายช็อคโกแล็ตเตรียมไว้ จะละลายในไมโครเวฟ
หรือละลายด้วยการตุ๋นก็ได้ค่ะ ต้มน้ำในหม้อให้ร้อน ไม่ต้องเดือด
เปิดไฟอ่อนๆ แล้ววางอ่างผสมที่ใส่ช็อคโกแล็ตซ้อนลงไป
คนให้ช็อคโกแล็ตละลาย พักไว้ก่อน

ช็อคโกแล็ตที่ละลายแล้ว

๒.ใส่ครีมชีสลงในโถตี ถ้าใครไม่มีสแตนด์มิกซ์เซอร์
ก็ใช้ตะกร้อไฟฟ้าได้ค่ะ ไม่มีปัญหา
ก็ใช้ตะกร้อไฟฟ้าได้ค่ะ ไม่มีปัญหา

๓.ตีครีมชีสกับน้ำตาลด้วยสปีดกลางจนส่วนผสมเนียนเข้าด้วยกัน

๔.ใส่ไข่ลงไปทีละฟองจนหมด ตีด้วยสปีดต่ำพอให้ส่วนผสมเข้ากัน

๕.ใส่ช็อคโกแล็ตขาวที่ละลายไว้แล้วลงไป ตีด้วยสปีดต่ำต่อ
จนส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ใช้พายยางปาดขอบอ่างด้วยนะคะ
และก็ใช้พายยางปาดก้นอ่าง ดูส่วนผสมว่าเข้ากันดีหรือยัง
จนส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ใช้พายยางปาดขอบอ่างด้วยนะคะ
และก็ใช้พายยางปาดก้นอ่าง ดูส่วนผสมว่าเข้ากันดีหรือยัง

๖.จากนั้นจึงใส่น้ำเลมอน และวานิลาลงไปตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ แต่ละครั้งที่ใส่ส่วนผสมแต่ละอย่างลงไป
ตีแป๊บเดียวนะคะ แค่พอส่วนผสมเข้ากันเท่านั้นก็พอค่ะ
เป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ แต่ละครั้งที่ใส่ส่วนผสมแต่ละอย่างลงไป
ตีแป๊บเดียวนะคะ แค่พอส่วนผสมเข้ากันเท่านั้นก็พอค่ะ

๗.เทส่วนผสมชีสเค้กลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม

จากนั้นก็ตักซอสค่อยๆหยอดลงไปบนส่วนผสมชีสเค้ก
และก็ใช้ไม้ปลายแหลมวนๆซอสให้สวยงามตามต้องการ
และก็ใช้ไม้ปลายแหลมวนๆซอสให้สวยงามตามต้องการ

ออกมาดังนี้

ถาดนี้สีคล้ำหน่อยเป็นสีของซอสเชอรรี่ค่ะ

๘.นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮต์
อบนานประมาณ ๖๐ นาที ถ้าหน้าแห้งๆไม่เปียกก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ
อบนานประมาณ ๖๐ นาที ถ้าหน้าแห้งๆไม่เปียกก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ

สุกแล้วค่ะ หน้ายุบหน่อยนึงเพราะหนักซ้อสค่ะ
พอสุกแล้วอย่าเพิ่งเอาเค้กออกจากเตาอบทันทีนะคะ
ให้ปิดอุณหภูมิเตาอบ แล้วแง้มๆฝาเตาอบไว้
ให้เค้กคลายความร้อนอยู่ในเตาอบประมาณ ๑ ชั่วโมง
ก่อนนำออกจากเตาอบค่ะ พอเค้กเริ่มเย็นตัว
ก็คลุมพิมพ์เค้กด้วยคิทเช่นทาวกันน้ำหยดใส่เค้กค่ะ
แช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อยๆ ๔ ชั่วโมงก่อนตัดเสิร์ฟ
พอสุกแล้วอย่าเพิ่งเอาเค้กออกจากเตาอบทันทีนะคะ
ให้ปิดอุณหภูมิเตาอบ แล้วแง้มๆฝาเตาอบไว้
ให้เค้กคลายความร้อนอยู่ในเตาอบประมาณ ๑ ชั่วโมง
ก่อนนำออกจากเตาอบค่ะ พอเค้กเริ่มเย็นตัว
ก็คลุมพิมพ์เค้กด้วยคิทเช่นทาวกันน้ำหยดใส่เค้กค่ะ
แช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อยๆ ๔ ชั่วโมงก่อนตัดเสิร์ฟ

รูปนี้ชีสเค้กอยู่ตัวดีแล้ว เอาออกจากพิมพ์เตรียมตัดแบ่ง

สตอร์วเบอร์รี่ได้รูปที่ตัดแล้วสวยๆมารูปเดียวค่ะ

หน้าเชอร์รี่ ยังไงอย่าลืมซ้อสที่เหลืออีกนะคะ
ราดชุ่มๆ อร่อยที่ซู้ดดด
ราดชุ่มๆ อร่อยที่ซู้ดดด

สุดท้ายของเมนูนี้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น